สำนวนจีน 借光 ยืมแสงสว่าง

จากบันทึกจ้านกว๋อเช่อ ในยุคจ้านกว๋อ แคว้นฉินมีแม่ทัพคนหนึ่งชื่อกานเม่า甘茂 ถูกคนให้ร้าย จนต้องหลบหนีไปอยู่แคว้นฉี

ขณะเดินทางออกจากด่านหันกู่กวน ได้พบกับซูไต้ 苏代 น้องชายของซูฉิน 苏秦 นักการทูตเลื่องชื่อ ซึ่งกำลังเดินทางมาแคว้นฉิน สองคนจึงได้สนทนากัน

กานเม่าถามซูไต้ว่า “ท่านเคยฟังนิทานเรื่องสตรีริมลำธารหรือไม่?”

ซูไต้ตอบว่า “ไม่เคยฟังมาก่อน”

กานเม่าจึงเล่านิทานให้ฟังว่า

ในกลุ่มสตรีที่อาศัยอยู่ริมลำธาร มีสตรีคนหนึ่งบ้านยากจนไม่มีเทียนไข จึงมักจะไปเย็บปักเสื้อผ้าที่บ้านสตรีคนอื่นที่จุดเทียนไข พวกสตรีเหล่านั้นจึงปรึกษากัน จะขับไล่สตรีที่บ้านไร้เทียนไขนั้นออกไป

สตรีบ้านไร้เทียนไขเตรียมตัวออกไป ได้กล่าวกับสตรีเหล่านั้นว่า “เป็นเพราะข้าไม่มีเทียนไข ข้าจึงมักมาถึงก่อน ปัดกวาดทำความสะอาดห้องหับ ตระเตรียมเสื่อที่นั่ง ให้ทุกคนได้เย็บปักเสื้อผ้าได้อย่างสุขสบาย แล้วเหตุใดพวกท่านจึงเสียดายแสงที่เหลือส่องสว่างถึงผนังทั้งสี่ด้านเหล่านี้ด้วยเล่า?

การที่มอบแสงสว่างที่เหลือให้กับข้าบ้าง เป็นการสร้างความไม่สะดวกแก่พวกท่านหรือ? ข้าคิดว่าข้ายังทำตัวเป็นประโยชน์ให้กับพวกท่านได้บ้าง แล้วเหตุใดถึงต้องไล่ข้าออกไปให้ได้?

บรรดาสตรีทั้งหลายเห็นว่านางพูดถูก จึงยอมให้ สตรีบ้านไร้เทียนไข อยู่ต่อไป

กานเม่าจึงกล่าวต่อว่า “ตอนนี้ข้ากระทำความผิด ถูกแคว้นฉินขับไล่ออกมา คิดจะไปอาศัยยังแคว้นฉี ยินยอมปัดกวาดทำความสะอาดห้องหับ ตระเตรียมเสื่อที่นั่งให้กับท่าน หวังว่าท่านจะไม่ขับไล่ข้า!”

ซูไต้จึงกล่าวตอบว่า “ได้ ข้าจะหาวิธีให้แคว้นฉีให้ความสำคัญกับท่าน”

ซูไต้ไปถึงแคว้นฉิน ก็กล่าวกับฉินอ๋องว่า

“กานเม่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มิใช่ชนชั้นธรรมดา เขาเคยได้รับความไว้ใจจากอดีตอ๋องทั้งหลาย ทั้ง ฮุ่ยอ๋อง อู่อ๋อง เจาอ๋อง 惠王、武王、昭王

เขตแดนแคว้นฉินจากเทือกเขาเซียวซาน ด่านหันกู่กวน จนถึงหุบเขาซีกู่ ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เขาก็รู้กระจ่างดุจนิ้วบนฝ่ามือตัวเอง ถ้าหากว่าเขารับใช้แคว้นฉี ร่วมมือกับแคว้นหาน แคว้นเว่ย รุกรานแคว้นฉิน เช่นนี้มิเป็นผลดีกับแคว้นฉินแน่ๆ

ฉินอ๋องกล่าวว่า “แล้วจะทำอย่างไรดีละ?”

ซูไต้กล่าวว่า “ท่านควรตระเตรียมสารตราตั้ง เตรียมมอบตำแหน่งใหญ่รับตัวเขากลับมา เมื่อเขากลับมา ก็ให้กักบริเวณเขาไว้ที่หุบเขาหวายกู่ ให้แก่ตายอยู่ที่นั่น เพียงแค่นี้แคว้นอื่นก็ไม่สามารถคุกคามแคว้นฉินได้”

ฉินอ๋องกล่าวว่า “ตกลงตามนี้”

ด้วยเหตุนี้ ฉินอ๋องจึงเสนอตำแหน่งซ่างชิง 上卿 เทียบได้กับมหาเสนาบดี พร้อมทั้งตราตำแหน่งไปรับตัวกานเม่า
แต่กานเม่าตอบปฏิเสธไม่ขอรับตำแหน่ง

เมื่อซูไต้กลับมายังแคว้นฉี ก็กล่าวกับฉีอ๋องว่า

“กานเม่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ตอนนี้ฉินอ๋องเสนอตำแหน่งซ่างชิงให้ ทั้งยังนำตราตำแหน่งมารับตัวเขา แต่กานเม่าสำนึกในบุญคุณที่ท่านรับตัวเขาไว้จึงไม่ยอมกลับแคว้นฉิน ซึ่งตัวเขาเองยินยอมเป็นข้ารับใช้ท่าน แต่ถ้าท่านไม่พยายามรั้งตัวเขาไว้ เขาคงไม่ระลึกถึงบุญคุณท่านอีก ด้วยความสามารถของเขา หากปล่อยให้เขานำทัพฉิน แคว้นฉีเราคงยากที่จะต่อกรกับแคว้นฉิน”

ฉีอ๋องกล่าวว่า “ตกลง”

ด้วยเหตุนี้ ฉีอ๋องจึงมอบตำแหน่งซ่างชิงให้กับกานเม่า เพื่อให้เขาอาศัยอยู่ในแคว้นฉีต่อไป

จากนั้นเป็นต้นมา ผู้คนก็ใช้นิทานสตรีหยิบยืมแสงสว่างของกานเม่า โดยใช้คำว่า 借光 ยืมแสงสว่าง แสดงความหมายในการร้องขอการอำนวยความสะดวกจากผู้อื่น โดยที่ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน