ปีอธิกสุรทิน 闰年 และเดือนซ้ำ 闰月 ในปฏิทินจีน

ในการใช้ปฏิทินนั้น เมื่อวันเวลาผ่านไป ได้มีการค้นพบว่า วันที่ในปฏิทินที่แสดงในปฏิทิน ได้เลื่อนไปจากฤดูกาลที่เกิดขึ้นจริง ส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาด ซึ่งเป็นผลจากการที่เราระบุว่า 1 ปี หรือเวลาที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์เท่ากับ 365 วันหรือ 366 วัน นั้น แท้จริงแล้วเวลาที่โลกโคจรจริง ๆ จะเป็น 365 วัน 5 ชั่วโมง 48 นาทีและ 46 วินาที (365.24219 วัน)

ดังนั้น เพื่อให้แน่ใจว่าความสอดคล้องระหว่างวันที่และฤดูกาลจะคงอยู่ จึงมีปรับปฏิทินให้สอดคล้องกับช่วงเวลาการโคจรของโลก โดยการนำปีอธิกสุรทินมาใช้

ปีอธิกสุรทิน หมายถึง ปีที่หารด้วย 4 ลงตัวเป็นส่วนมาก โดยในปีอธิกสุรทินแต่ละปีนั้น เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน แทนที่จะมี 28 วัน

แต่สำหรับในปฏิทินจีน ปีอธิกสุรทิน คือ ปีที่มีเดือนอธิกสุรทินซึ่งมากกว่าปีปกติ 1 เดือน

โดยสำหรับปีจันทรคติจีนโดยปกติ จะมี 354 หรือ 355 วัน

ใน เดือนเล็ก/เดือนขาด เสี่ยวเยว่ 小月 จะมี 29 วัน ส่วนเดือนใหญ่/เดือนเต็ม ต้าเยว่ 大月 จะมี 30 วัน

การวางเดือนใหญ่ เดือนเล็ก อาจแตกต่างกันในแต่ละปี ไม่จำเป็นต้องเป็นเดือนคู่ เดือนคี่ แบบปฏิทินจันทรคติไทย

แต่ทุก ๆ 3 – 4 ปี จึงมีการเพิ่มเดือนซ้ำครั้งหนึ่ง คล้ายกับ เดือนอธิกมาส ในระบบปฏิทินจันทรคติไทย

หากปีใดมีเดือนซ้ำ ช่วนเยว่ 闰月 ปีปฏิทินฯ จะมีจำนวนวัน 383 หรือ 384 วัน

ระบบอธิกมาสในปฏิทินจันทรคติจีน ไม่จำเป็นว่าต้องเพิ่มเดือนตรงเดือนแปด มีเดือนแปดสองหน (๘๘) แบบปฏิทินจันทรคติไทย แต่จะเพิ่มเดือนตรงเดือนไหนก็ได้ใน 12 เดือน ก็ได้ โดยเรียกเดือนนั้นว่า เดือนซ้ำ 闰月 เช่นถ้าเดือน 6 ซ้ำ จะเรียกว่า 六闰月

การเลือกว่าเดือนใดจะเป็นเดือนซ้ำตามหลักปฏิทินจีน

การกำหนดเดือนที่เพิ่มขึ้นมาจะไม่เหมือนปฏิทินไทย ที่แน่นอนตายตัวว่าเป็นเดือน 8แต่วิธีการเพิ่มเดือนของจีนจะใช้ 24 ฤดูกาล มาตัดสิน กล่าวคือ

ให้ดูว่าตั้งแต่วันตงจื้อ 冬至 ถึงบรรจบ วันตงจื้อ อีกหนึ่งรอบ มีกี่เดือน หากมี 12 เดือนแปลว่าเป็นปกติ ไม่ต้องกำหนด เดือนซ้ำ 闰月

แต่หากนับดูแล้ว ปีไหนมี 13 เดือน ต้องกำหนดเดือนซ้ำ ซึ่งการกำหนดเดือนซ้ำว่าจะเป็นเดือนใด ก็ให้ดูว่าในช่วงเดือนใด ไม่มี ฤดูกาลจีน ตก 2 ฤดู (ตั้งแต่ต้นเดือนถึงปลายเดือน มีฤดูกาลจีน เพียงแค่ 1 ฤดู) ให้กำหนดเดือนนั้นเป็นซ้ำของเดือนก่อนหน้านั้น

ข้อควรระมัดระวังในช่วงเดือนซ้ำ

  1. หลีกเลี่ยงการจัดงานเฉลิมฉลอง เนื่องจาก เชื่อกันว่า ในช่วงเดือนซ้ำเป็นช่วงที่พลังงานไม่เสถียร การจัดงานพิธีขนาดใหญ่ เช่น งานแต่งงาน งานเฉลิมฉลอง หรืองานศพในช่วงนี้ อาจทำให้เกิดความขัดแย้งและอุบัติเหตุที่ไม่จำเป็น
  2. หลีกเลี่ยงการเดินผ่านสุสานหรือบ้านที่มีผู้เสียชีวิต หากต้องการบูชาบรรพบุรุษหรือย้ายหลุมศพ แนะนำให้เลือกวันมงคลหลังเดือนซ้ำ
  3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งของที่เป็นวัตถุมงคลทางศาสนา เช่น ลูกประคำ ที่ไม่ทราบแหล่งที่มา เนื่องจากวัตถุเหล่านั้นอาจมีพลังงานลบ และการสัมผัสสิ่งของเหล่านี้ในเดือนซ้ำอาจส่งผลร้ายได้
  4. หลีกเลี่ยงการย้ายบ้านในเดือนซ้ำ โดยปกติ เดือนที่ 7 ตามปฏิทินจันทรคติจีนถือเป็นเดือนผี จึงห้ามในการย้ายบ้าน ส่วนการเกิดก่อนเดือน 7 จึงเป็นการเลื่อนการเปิดประตูผีออกไป ดังนั้น จึงมีคำความเชื่อว่า การย้ายบ้านในเดือนซ้ำอาจส่งผลต่อโชคลาภและนำโชคร้ายมาให้ อย่างไรก็ตาม หากมีความจำเป็นต้องย้ายบ้านจริง ๆ ควรปรึกษาซินแส เพื่อแนะนำให้เลือกวันมงคล

สั่งซื้อปฏิทินน่ำเอี๊ยง ปีมะเส็ง แบบฉีกรายวัน ปฏิทิน2568 คลิก

ประเพณีมอบรองเท้าในเดือนซ้ำ

ประเพณีมอบรองเท้าในเดือนซ้ำ 闰月鞋 Leap month shoes ในเดือนซ้ำตามปฏิทินจันทรคติจีน ชาวจีนมีธรรมเนียมว่า ลูกสาวที่แต่งงานแล้วจะต้องซื้อรองเท้าให้พ่อแม่หนึ่งคู่ เพื่อเป็นการตอบแทนพ่อแม่ที่เลี้ยงดูมา และเพื่อขอพรให้พ่อแม่มีสุขภาพแข็งแรงและปลอดภัย

เมื่อเทียบกับเดือนทั่วไปแล้วเดือนซ้ำถือเป็นเดือนที่พิเศษ ในหลายพื้นที่ของจีน ผู้คนเชื่อว่าเดือนซ้ำเป็นเดือนแห่งความยากลำบากโดยเฉพาะผู้สูงอายุ

มีกฎเกณฑ์บางประการสำหรับการซื้อรองเท้าสำหรับเดือนซ้ำ โดยทั่วไปแล้ว รองเท้าเหล่านี้จะถูกเตรียมไว้ล่วงหน้าหนึ่งเดือน เพื่อมอบให้ผู้สูงอายุสวมใส่ในเดือนซ้ำ โดยหวังว่าจะนำพาความมีอายุยืนยาวและพรอันประเสริฐมาให้ นี่

ดังคำกล่าวที่ว่า “หากสวมรองเท้าในเดือนซ้ำ ท่านจะมีอายุยืนยาวถึงพันปี”

ในบางพื้นที่ ประเพณีการสวมรองเท้าเดือนซ้ำถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ซึ่งมีผลในการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและนำพาโชคลาภมาให้

ต้นกำเนิดของประเพณีการให้ “รองเท้าเดือนซ้ำ” ยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่โดยทั่วไปเชื่อกันว่าเดือนซ้ำเป็นเดือนแห่งความลำบาก หากลูกสาวทำรองเท้าให้แม่ก่อนถึงเดือนซ้ำจะช่วยให้แม่ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้อย่างปลอดภัย

ในบางพื้นที่มีคำกล่าวที่ว่า “เดือนซ้ำเป็นเดือนแห่งการดูแลแม่” เชื่อกันว่าเดือนซ้ำมีความสำคัญต่อสุขภาพของแม่และเด็กควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ

ในปัจจุบันเรื่องราวของรองเท้าซ้ำไม่เพียงแต่เกิดขึ้นระหว่างผู้หญิงที่แต่งงานแล้วกับครอบครัวเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นระหว่างลูกสะใภ้กับพ่อแม่สามีด้วย

การมอบรองเท้าในเดือนซ้ำ กลายเป็นวิธีแสดงความกตัญญูและตอบแทนบุญคุณพ่อแม่
ซึ่งแม้ว่าจะเป็นเรื่องงมงาย แต่ก็แทรกความหมายที่ลึกซึ้งเรื่องความกตัญญู ทำให้ในยุคปัจจุบัน การให้รองเท้าเป็นของขวัญในเดือนซ้ำถือเป็นธรรมเนียมที่ช่วยรักษาความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว