จันทรุปราคา เป็นช่วงที่โลก ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ โคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน และดวงจันทร์เคลื่อนที่ผ่านเข้าไปในเงาของโลก เรียกเป็นภาษาจีนว่า เย่สือ 月食
ชาวจีนโบราณได้อธิบายปรากฏการณ์จันทรุปราคาไว้นานแล้ว มีการบันทึกปรากฏการณ์จันทรุปราคาหลายครั้งไว้ในจารึกกระดูกพยากรณ์สมัยราชวงศ์ซาง
ชาวจีนโบราณเชื่อว่าบนดวงจันทร์มีคางคกที่สามารถกลืนกินดวงจันทร์ได้ 蟾蜍食月
ในตำราฮ่วยหนานจื่อของราชวงศ์ฮั่นตะวันตก มีบันทึกไว้ว่า
“ดวงจันทร์ส่องสว่างไปทั่วแผ่นดิน และถูกบดบังด้วยฉานฉู 蟾蜍 คือ คางคกสามขา สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าแนวคิดเรื่องคางคกกินดวงจันทร์นั้นฝังรากลึกมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฉินและฮั่น
ต่อมา บทกวีและบทเพลงตลอดทุกราชวงศ์เต็มไปด้วยเรื่องเล่าเกี่ยวกับ “คางคกกินดวงจันทร์” ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฉินและฮั่น
ในตำราหลุนเหิงของหวังฉง ซึ่งเป็นตำราสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก ระบุว่า
“นักปราชญ์ขงจื๊อกล่าวไว้ว่า ‘บนดวงจันทร์มีนกสามขา กระต่ายกับคางคก’”
ส่วนตำราหลิงเซียนของจางเหิง ซึ่งเป็นตำราสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก อธิบายเพิ่มเติมถึงการมีอยู่ของคางคกบนดวงจันทร์
ในช่วงปลายราชวงศ์ชิง เรื่องเล่า “คางคกกินดวงจันทร์” นี้ยังคงเป็นคำอธิบายพื้นบ้านที่แพร่หลายเกี่ยวกับสาเหตุของจันทรุปราคา
แต่ในปัจจุบัน แนวคิดเรื่อง “พระจันทร์ถูกหมาสวรรค์กิน” 天狗食月 ได้เข้ามาแทนที่แนวคิดเรื่อง “พระจันทร์ถูกคางคกกิน”
งานวิจัยของอู๋ เจี๋ยหัว จากมหาวิทยาลัยหนานชาง ระบุว่าแนวคิด “หมาสวรรค์กินพระจันทร์” น่าจะค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในหมู่ประชาชนในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง หลังจากพิจารณาวรรณกรรมต่าง ๆ พบว่าบันทึกส่วนใหญ่ปรากฏในสมัยราชวงศ์ชิง แต่สังคมกระแสหลักในขณะนั้นยังคงเชื่อว่า “คางคกกินพระจันทร์” จุดเปลี่ยนที่ “หมาสวรรค์กินพระจันทร์” กลายเป็นแนวคิดกระแสหลักคือหลังจากการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน
ตำนานหมาสวรรค์กลืนดวงจันทร์
เล่าขานว่า เมื่อโฮ่วอี้ ยิงดวงอาทิตย์ลงมาเก้าดวงเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไป ซีหวังหมู่จึงประทานยาอายุวัฒนะแก่โฮ่วอี้ ทว่าฉางเอ๋อกลับขโมยยาอายุวัฒนะไป และบินขึ้นไปบนสวรรค์
เมื่อเห็นดังนั้น เฮยเอ๋อร์ สุนัขของโฮ่วอี้ก็เห่าและวิ่งเข้าไปในบ้าน เลียยาอายุวัฒนะที่เหลืออยู่จนหมด เมื่อฉางเอ๋อได้ยินเสียงเห่าของเฮยเอ๋อร์ ก็รีบเข้าไปในดวงจันทร์
ขนของเฮยเอ๋อร์ลุกชัน ร่างกายของมันขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ มันกระโจนเข้าใส่ กลืนฉางเอ๋อและดวงจันทร์ลงไปทั้งดวง
ในเวลานั้น เง็กเซียนฮ่องเต้ และซีหวังหมู่ ทรงทราบว่าดวงจันทร์ถูกสุนัขดำกลืนกิน จึงทรงบัญชาให้เหล่าทหารสวรรค์จับตัวมันไป เมื่อสุนัขดำถูกจับได้ ซีหวังหมู่ก็ทรงจำได้ว่า มันเป็นสุนัขล่าสัตว์ของโฮ่วอี้ จึงทรงตั้งชื่อมันว่า “สุนัขสวรรค์” มอบหมายให้มันเฝ้าประตูสวรรค์ด้านใต้
เฮยเอ๋อยินดีในตำแหน่งที่ซีหวังหมู่มอบให้ จึงได้คายดวงจันทร์และฉางเอ๋อ ออกมา