หนังสือ วรรณกรรม ของกิมย้ง

กิมย้ง 金庸 หรือจาหลียงยง เป็นนักเขียน นิยายจีนกำลังภายในที่ได้รับความนิยมมากที่สุด กิมย้ง ได้สร้างผลงานจำนวน 15 เรื่อง โดยทั้งหมดที่กิมย้งเขียนล้วนเป็นนิยายกำลังภายใน เป็นเรื่องยาว 12 เรื่อง เรื่องขนาดกลาง 2 เรื่อง และ เรื่องสั้น 1 เรื่อง อันได้แก่

จอมใจจอมยุทธ 书剑恩仇录 Book and Sword: Gratitude and Revenge (1956)

จอมใจจอมยุทธ์ เป็นนวนิยายกำลังภายใจเรื่องแรกในชีวิตการเขียนของกิมย้งต้นฉบับภาษาจีนชื่อ “จือเกี่ยมอึงชิ้วลก” แปลตรงตัวว่าบันทึกบุญคุณความแค้นอักษรกระบี่ เนื่องจากเห็นว่ามีกลิ่นอายความรักอย่างเข้มข้นจึงใช้ชื่อว่า “จอมใจจอมยุทธ์”

จอมใจจอมยุทธ์นำเอาคำเล่าลือที่ว่า เฉียนหลงฮ่องเต้เป็นชาวฮั่น มาเขียนต่อขยาย จนเป็นเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างพี่น้องร่วมอุทร ที่คนหนึ่งทรยศต่อชาติตระกูลของตนเพราะต้องการดำรงตำแหน่งฮ่องเต้แห่งราชวงศ์ชิง ส่วนอีกคนหนึ่งได้กลายเป็นผู้นำแห่งพรรคดอกไม้แดงที่ต้องการล้มล้างราชวงศ์ชิง โดยตัวเอกในเรื่องนี้ยังคงมีบทบาทในเรื่องจิ้งจอกภูเขาหิมะ อีกด้วย

เพ็กฮวยเกี่ยม 碧血剑 Sword Stained with Royal Blood (1955-1956)

เพ็กฮ้วยเกี่ยม หรือกระบี่เลือดเขียวเป็นยุทธจักรนวนิยายเรื่องที่สองในชีวิตการเขียนของปรมาจารย์กิมย้ง ดำเนินเรื่องโดยอิงฉากประวัติศาสตร์ยุคปลายราชวงศ์หมิง

มังกรหยก ภาค 1 射雕英雄传 The Legend of the Condor Heroes (1957-1959)

เรื่องราวมังกรหยก เกิดในยุคราชวงศ์ซ่ง แผ่นดินจีนเสื่อมโทรมในทุกด้าน อาณาประชาราษฎร์ยากแค้นลำเค็ญ ขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวง กดขี่ข่มเหงชาวจีนด้วยกัน ก๊วยเซาเทียน และ เอี้ยทิซิม พี่น้องร่วมสาบาน ถูกใส่ร้ายป้ายสีว่าเป็นกบฏ พวกเขาต่อต้านการจับกุม เข้าสู้พวกทหาร จนกระทั่งก๊วยเซาเทียนเสียชีวิต บ้านเรือนถูกเผาผลาญย่อยยับ เอี้ยทิซิม หลีเพ้ง ภรรยาก๊วยเซ่าเทียน และ เปาเซียะเยียก ภรรยาเอี้ยทิซิม หนีกันไปคนละทิศละทาง ผู้หญิงทั้งสองกำลังตั้งครรภ์ หลีเพ้งให้กำเนิด ก๊วยเจ๋ง เร่ร่อนไปเติบใหญ่ในแผ่นดินมองโกลใต้ร่มใบบุญเจงกิสข่านผู้ยิ่งใหญ่ ในขณะที่เปาเซียะเยียกให้กำเนิด เอี้ยคัง ได้ดีมีสุขในวังไต้กิมก๊กของชาวหนี่เจิน

ทั้งมองโกลและนีเจิน ล้วนเป็นศัตรูผู้รุกรานและต้องการยึดครองแผ่นดินตงง้วน

ก๊วยเจ๋งและเอี้ยคังเติบโตขึ้นท่ามกลางสภาพแวดล้อมและการบ่มเพาะที่ต่างกัน จึงมีพฤตินิสัยไปคนละแบบ ก๊วยเจ๋งได้รับการสั่งสอนย้ำเตือนจาก หลีเพ้ง ผู้เป็นมารดา และ เจ็ดประหลาดกังหนำ ผู้เป็นอาจารย์ ให้แก้แค้นแทนบิดา และยึดมั่นในจิตวิญญาณจีน ถึงแม้ต้องตัดไมตรีกับพวกมองโกล ก็ไม่ยินยอมทำร้ายแผ่นดินตงง้วน อันเป็นมาตุภูมิ ในขณะที่เอี้ยคัง หลงใหลในลาภยศสรรเสริญ ยินยอมรับศัตรูเป็นบิดา ยอมกระทั่งยังกล้าย่ำยีคนชนเชื่อชาติเดียวกัน

จิ้งจอกภูเขาหิมะ – 雪山飛狐 – Fox Volant of the Snowy Mountain (1959)

มังกรหยก ภาค 2 – 神雕侠侣 – The Return of the Condor Heroes (1959-1961)

จิ้งจอกอหังการ – 飛狐外傳 – The Young Flying Fox (1960-1962)

เทพธิดาม้าขาว – 白马啸西风 – White Horse Neighs in the Western Wind (1961-1962)

ดาบนกเป็ดน้ำ – 鸳鸯刀 – Blade-dance of the Two Lovers (1961)

มังกรหยก ภาค 3 หรือ ดาบมังกรหยก 倚天屠龍記 – Heaven Sword and Dragon Sabre (1961-1963)
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการช่วงชิงความเป็นใหญ่ในยุทธภพของสำนักง้อไบ๊ และสำนักบู๊ตึ้ง ที่มีระยะเวลาถัดจากเรื่องของก๊วยเจ๋ง และ เอี้ยก่วย ถึง 3-4 ชั่วอายุคน ตัวเอกของเรื่องคือ เตียบ่อกี้ (บุตรชายเพียงคนเดียวของ จอมยุทธ์ที่ห้า แห่งสำนักบู๊ตึ้ง เตียชุ่ยซัว และ บุตรีของจ้าวอินทรีคิ้วขาว แห่งพรรคมาร ฮึงซู่ซู่) เตียบ่อกี้ ต้องผจญภัยมากมาย และสุดท้ายได้เป็นประมุขนิกายเม้งก่า ซึ่งมีบทบาทในการกอบกู้ประเทศจากมองโกล โดยนางเอกในภาคนี้ชื่อ หมิ่นหมิ่น (เตี๋ยเมี่ยง) เป็นลูกสาวของอ๋องมองโกล ตลอดทั้งเรื่องมีตัวละคร ที่มีการพัฒนาการกว่า ก๊วยเจ๋งยอดวีรบุรุษ และเอี้ยก่วยเจ้าอินทรี โดยเฉพาะกิมย้งยังเปลี่ยนแปลง ตอนจบ ของดาบมังกรหยก ต่างจากฉบับที่ผ่านมา

กระบี่ใจพิสุทธิ์ 连城诀 A Deadly Secret (1964-1965)

แปดเทพอสูรมังกรฟ้า – 天龙八部 – Semi-Gods and Semi-Devils (1963-1966)

มังกรทลายฟ้า – 侠客行 – Ode to Gallantry (1966-1967)

กระบี่เย้ยยุทธจักร หรือ ผู้กล้าหาญคะนอง 笑傲江湖 – The Smiling, Proud Wanderer (1967-1969)

กระบี่นางพญา – 越女剑 – Sword of the Yue Maiden (1970)

อุ้ยเสี่ยวป้อ 韦小宝 – Deer and the Cauldron เป็นนิยายเรื่องสุดท้ายของ กิมย้ง เป็นเรื่องราวตัวละครสมัยราชวงศ์ชิงที่สะท้อนการเมืองในจีนแผ่นดินใหญ่หลังปฏิวัติวัฒนธรรม

อุ้ยเสี่ยวป้อเป็นสามัญชน เกิดที่เมืองหยางโจว วันหนึ่งมีเหตุการณ์ที่ทำให้อุ้ยเสี่ยวป้อต้องสวมรอยเป็นขันทีชื่อ เสี่ยวกุ้ยจื่อ และใช้ชีวิตอยู่ในวังหลวง จนอยู่มาวันหนึ่งเขาได้พบชายหนุ่มซึ่งเรียกตัวว่าเสี่ยวเสียนจื่อกำลังฝึกวรยุทธอยู่ ที่แท้ชายหนุ่มที่ว่านี้คือฮ่องเต้ ต่อมาพวกเขาก็ได้เป็นเพื่อนกัน ฮ่องเต้มีรับสั่งให้อุ้ยเสี่ยวป้อไปกำจัดอ้าวไป้ซึ่งเป็นขุนนางชั่ว อุ้ยเสี่ยวป้อใช้ปฏิภาณไหวพริบสังหารอ้าวไป้จนสำเร็จ ทำให้อุ้ยเสี่ยวป้อกลายเป็นคนโปรดของฮ่องเต้ และในเวลาเดียวกันกับเหตุการณ์นี้ อุ้ยเสี่ยวป้อก็ได้กลายเป็นที่หมายปองของพี่น้องพรรคฟ้าดินที่ต่อต้านราชวงศ์ชิง เพื่อหวังกอบกู้ราชวงศ์หมิง อุ้ยเสี่ยวป้อได้รับคำสั่งจากพรรคฟ้าดินให้เดินทางกลับวังหลวงเพื่อเป็นสายให้พวกเขา หลังจากนั้นก็ได้มีเรื่องต่างๆเกิดขึ้นมากมาย