ระบบการนับเวลาของจีนโบราณเรียกว่า ชั่วยาม หรือ สือเฉิน 时辰 เป็นการวัดเวลาแบบจีนโบราณ โดยมาจาการวัดเวลาโดยใช้ นาฬิกาแดด หรือ ยื่อกุ้ย 日晷 ซึ่งจะอ่านเวลาโดยการสังเกตเงาของดวงอาทิตย์ที่ตกลงมาบนหน้าปัดของนาฬิกา ซึ่งแบ่งออกเป็น 12 ช่อง แต่ละช่องมีหน่วยนับเป็น ชั่วยาม เรียกว่า สือเฉิน 时辰 โดยแต่ละชั่วยามจะมีระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ใน 1 วันจะมีทั้งหมด 12 ชั่วยาม ชั่วยามละประมาณ 2 ชั่วโมง โดยมีชื่อเรียกแต่ละชั่วยาม เทียบเคียงกับปีนักษัตรทั้ง 12 นักษัตร ซึ่งจะสามารถนำไปทำนายดวงชะตาและฤกษ์ยามต่อได้ โดย 12 ชั่วยาม ประกอบด้วย
| ชั่วยาม (时辰) | นักษัตร | เวลาสากล | ความหมายโดยสังเขป |
| ยามจื่อ (子时) | หนู (鼠) | 23:00 – 01:00 น. | กลางดึก (夜半) |
| ยามโฉ่ว (丑时) | วัว (牛) | 01:00 – 03:00 น. | ไก่ขัน (鸡鸣) |
| ยามอิ๋น (寅时) | เสือ (虎) | 03:00 – 05:00 น. | ย่ำรุ่ง (平旦) |
| ยามเหม่า (卯时) | กระต่าย (兔) | 05:00 – 07:00 น. | รุ่งอรุณ (日出) |
| ยามเฉิน (辰时) | มังกร (龙) | 07:00 – 09:00 น. | เวลามื้อเช้า (食时) |
| ยามซื่อ (巳时) | งู (蛇) | 09:00 – 11:00 น. | ใกล้เที่ยง (隅中) |
| ยามอู่ (午时) | ม้า (马) | 11:00 – 13:00 น. | เที่ยงวัน (日中) พลังหยางสูงสุด |
| ยามเว่ย (未时) | แพะ (羊) | 13:00 – 15:00 น. | บ่ายคล้อย (日昳) |
| ยามเซิน (申时) | ลิง (猴) | 15:00 – 17:00 น. | ตะวันคล้อย (晡时) |
| ยามโหย่ว (酉时) | ไก่ (鸡) | 17:00 – 19:00 น. | ยามเย็น (日入) |
| ยามซวี (戌时) | สุนัข (狗) | 19:00 – 21:00 น. | พลบค่ำ (黄昏) |
| ยามไฮ่ (亥时) | หมู (猪) | 21:00 – 23:00 น. | ยามคนนิ่ง (人定) |
หน่วยเวลาย่อย
เนื่องจากหนึ่งชั่วยามกินเวลานานถึง 2 ชั่วโมง เพื่อให้สามารถกำหนดเวลาในชีวิตประจำวันได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ชาวจีนโบราณจึงได้พัฒนาหน่วยเวลาย่อยขึ้นมา
เค่อ 刻 เป็นหน่วยที่ใช้แบ่งชั่วยามให้ละเอียดขึ้น ซึ่งเทียบได้กับนาทีในปัจจุบัน
นับตั้งแต่ราชวงศ์โจวเป็นต้นมา ชาวจีนก็รู้จักใช้นาฬิกาน้ำ เป็นตัวบอกเวลา โดยอาศัยถังน้ำเจาะรูให้น้ำไหลออกได้ พร้อมจัดวางภาชนะรองรับน้ำซึ่งจะมีไม้ไผ่ขีดเส้นแบ่งบอกเวลาเสียบปักอยู่ด้วย เมื่อน้ำจากถังไหลออกตามท่อลงมายังภาชนะรองรับ ระดับน้ำที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ไล่ระดับตามเส้นขีดบนไม้ไผ่ จึงทำให้สามารถรู้เวลาได้
การวัดเวลาหน่วยนี้เดิมใช้รอยขีดบนเครื่องวัดที่เรียกว่า นาฬิกาน้ำ หรือ โล่วหู 漏壶 ซึ่งใช้หลักการหยดอย่างสม่ำเสมอ ตามลักษณะของน้ำ แล้วอาศัยสังเกตการลดลงของน้ำเพื่อบ่งบอกเวลา โดยแบ่งขีดเวลาออกเป็น 100 ขีด นั่นคือ
ใน 1 วัน จะมี 100 เค่อ
ดังนั้น 1 ชั่วยามจึงมีทั้งหมด 8 เค่อ
โดย 1 เค่อ จะเทียบเท่ากับเวลาประมาณ 15 นาที
การบอกเวลาในช่วงกลางคืน
ในช่วงเวลากลางคืนนั้น จะมีระบบการบอกเวลาพิเศษเรียกว่า เกิง 更 ซึ่งใช้เฉพาะช่วงตั้งแต่พลบค่ำไปจนถึงย่ำรุ่ง (19:00 – 05:00 น.) หน้าที่หลักของเกิงคือการบอกเวลาและตรวจตราความปลอดภัยโดย ยามเดินตรวจ 更夫 ซึ่งจะทำการเคาะกังวานหรือตีกลองเพื่อแจ้งเวลา
โดยกลางคืนจะถูกแบ่งออกเป็น ห้าเกิง 五更 โดยแต่ละเกิงมีระยะเวลาเท่ากับหนึ่งชั่วยาม
| เกิง | เวลาสากล | ตรงกับชั่วยาม |
| เกิง 1 | 19:00 – 21:00 น. | ยามซวี |
| เกิง 2 | 21:00 – 23:00 น. | ยามไฮ่ |
| เกิง 3 | 23:00 – 01:00 น. | ยามจื่อ |
| เกิง 4 | 01:00 – 03:00 น. | ยามโฉ่ว |
| เกิง 5 | 03:00 – 05:00 น. | ยามอิ๋น |
หน่วยเวลาตามกิจกรรม
นอกจากหน่วยที่เป็นทางการแล้ว ยังมีหน่วยเวลาแบบยืดหยุ่นที่อ้างอิงจากกิจกรรม ซึ่งใช้ในการสื่อสารแบบไม่เป็นทางการ คือ
เวลาหนึ่งก้านธูป 一炷香
การบอกเวลาด้วยก้านธูปเป็นที่แพร่หลาย เนื่องจากมีความสะดวกและง่ายไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์มาก แต่เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง ทั้ง กำลังแรงลม ความสั้นยาวของธูป ความชื้นและปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ ล้วนส่งผลต่อการเผาไหม้เร็วช้าของธูป ทำให้ระยะเวลาหนึ่งก้านธูป มีความสั้นยาวแตกต่างกันออกไปบ้าง แต่ก็เป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่าเวลาหนึ่งก้านธูปนี้ เทียบได้กับ 1 ชั่วโมงของเวลาปัจจุบัน
เวลาหนึ่งถ้วยชา 一盏茶
ชาวจีนนิยามดื่มชา และมีวัฒนธรรมการดื่มชาในชีวิตประจำวัน จึงใช้ช่วงระยะเวลาจิบชาหนึ่งถ้วยเป็นหน่วยบอกเวลา ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 – 15 นาที
ติดตาม chinatalks ได้ที่
