ตู้เจียงเยี่ยน 都江堰 คือระบบชลประทานอันน่าทึ่งที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำหมินเจียง มณฑลเสฉวน ประเทศจีน
ตู้เจียงเยี่ยน สร้างขึ้นตั้งแต่ประมาณ 256 ปีก่อนคริสตกาล โดย หลี่ ปิง ข้าหลวงแห่งแคว้นฉินในขณะนั้น พร้อมด้วยความช่วยเหลือจากบุตรชายของเขา
ระบบชลประทานนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นในลักษณะของเขื่อนยักษ์ที่กั้นน้ำ แต่เน้นหลักการ “โอนอ่อนผ่อนตามธรรมชาติ” คือการแบ่งน้ำและระบายน้ำอย่างชาญฉลาด เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งที่เกิดขึ้นซ้ำซากบนที่ราบเฉิงตูมานานหลายศตวรรษ
หัวใจหลักของตู้เจียงเยี่ยนประกอบด้วยโครงสร้างสำคัญสามส่วนที่ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ
เริ่มต้นที่ “หยีจุ่ย” 鱼嘴 หรือ “ปากปลา” (The Fish Mouth Levee) ซึ่งเป็นทำนบดินรูปทรงคล้ายปากปลาที่ปักอยู่กลางแม่น้ำหมินเจียง ทำหน้าที่แบ่งกระแสน้ำออกเป็นสองสาย คือ
สายนอก (Outer River) สำหรับระบายน้ำส่วนเกินและตะกอน และ
สายใน (Inner River) ซึ่งเป็นคลองที่ขุดขึ้นใหม่เพื่อผันน้ำเข้าสู่พื้นที่เพาะปลูกในที่ราบเฉิงตู
ความอัจฉริยะอยู่ที่การออกแบบที่ทำให้ในฤดูแล้งน้ำส่วนใหญ่จะไหลเข้าสายใน ขณะที่ในฤดูน้ำหลาก น้ำส่วนเกินและแรงปะทะจะถูกเบี่ยงไปสายนอกโดยอัตโนมัติ
ถัดมาคือ “เฟยซาเยี่ยน” หรือ “หาดทรายบิน” (The Flying Sand Weir) ทำหน้าที่เป็นวาล์วนิรภัยและกลไกขจัดตะกอนดินและทราย ทำนบนี้จะช่วยควบคุมระดับน้ำในสายใน หากน้ำมีปริมาณมากเกินไป น้ำส่วนหนึ่งจะไหลล้นและถูกเบี่ยงกลับออกไปยังสายนอก และด้วยหลักการของแรงเหวี่ยง ทำให้ตะกอนหนัก ๆ ถูกพัดพาให้ “บิน” ข้ามทำนบนี้ไปรวมกับสายนอกแทนที่จะไปอุดตันในคลองชลประทาน ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ระบบนี้สามารถคงประสิทธิภาพการทำงานมาได้ยาวนานกว่าสองพันปีโดยไม่ถูกตะกอนทับถม
ส่วนสุดท้ายคือ “เป่าผิงโข่ว” หรือ “ปากขวด” (The Bottle Neck Channel) ซึ่งเป็นช่องทางที่ถูกเจาะทะลุภูเขาเพื่อเป็นประตูทางเข้าน้ำสุดท้ายก่อนเข้าสู่ที่ราบเฉิงตู ปากขวดนี้ถูกออกแบบให้มีขนาดจำกัดเพื่อทำหน้าที่เสมือนตัวควบคุมอัตโนมัติ (Intake Regulator) ที่ยอมให้น้ำไหลผ่านเข้าสู่คลองชลประทานได้ในปริมาณที่เหมาะสมกับการใช้งานเท่านั้น และหากปริมาณน้ำสูงเกินขีดจำกัดก็จะทำให้น้ำล้นกลับไปที่หาดทรายบินโดยปลอดภัย
เทคนิคในการขุดเจาะช่องเขานี้ในสมัยโบราณใช้วิธี “เผาแล้วราดน้ำเย็น” เพื่อให้หินแตกตัว เนื่องจากยังไม่มีดินปืน นับเป็นภูมิปัญญาและนวัตกรรมที่น่าทึ่งมาก
ตู้เจียงเยี่ยนไม่เพียงแต่ช่วยยุติภัยพิบัติจากน้ำท่วมและภัยแล้งในเสฉวนเท่านั้น แต่ยังทำให้ที่ราบเฉิงตูกลายเป็นพื้นที่การเกษตรที่อุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืน จนได้รับสมญานามว่า “เมืองสวรรค์บนดิน” (Tian Fu Zhi Guo)
ระบบชลประทานนี้ยังคงใช้งานและบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ถือเป็นมรดกโลกที่แสดงให้เห็นถึงความฉลาดทางวิศวกรรมที่ใช้การจัดการทรัพยากรน้ำอย่างสมดุลและสอดคล้องกับธรรมชาติอย่างแท้จริง
