เมืองผีเฟิงตู 丰都鬼城 Fengdu Ghost City

เมืองผีเฟิงตู 丰都鬼城 ตั้งอยู่ห่างจากฉงชิ่ง 168 กิโลเมตร สร้างขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงเรื่องราวแห่งชีวิตหลังความตายตามความเชื่อของจีน

ตามตำนานเล่าขานกันว่า

เมืองเฟิงตูได้รับฉายาว่า “เมืองผี” ในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ค.ศ. 25-220) ขุนนางสองท่าน คือ หยิน ฉางเซิง และ หวาง ฟางผิง ได้เดินทางมายังภูเขาหมิงเพื่อฝึกฝนลัทธิเต๋า และในระหว่างนั้น ทั้งสองได้กลายเป็นเซียน

โดยชื่อของพวกเขาที่รวมกันคือ หยินหวาง ซึ่งแปลว่า “ราชาแห่งนรก” นับเป็นจุดเริ่มต้นของการให้ความสำคัญกับโลกใต้พิภพ

เมืองผีเฟิงตู สร้างขึ้นจากจินตนาการเกี่ยวข้องกับตี้อวี้ ซึ่งหมายถึงนรก ตามความเชื่อของจีน โดยสถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นให้คล้ายกับโยวตู เมืองหลวงของนรก อาคารสถานที่ต่าง ๆ ประกอบด้วยพระราชวังนรก ประตูนรก นรก 18 ชั้น และสถานที่สำคัญ ๆ ที่อยู่ในนรก รวมถึงมีรูปปั้นผีและเครื่องมือลงโทษ หลากหลายรูปแบบ ให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้เรื่องราวของนรก

เข้าสู่ปรโลก

เมืองผีเฟิงตู ถูกแยกออกจากมณฑล เมื่อเขื่อนสามผา ถูกสร้างขึ้น ปัจจุบันส่วนหนึ่งของเมือง จมอยู่ใต้น้ำ

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ในเมืองผีเฟิงตู

ใบหน้ายักษ์ของ พญายมราช บนเนินเขา ได้รับการยกย่องจากกินเนสส์บุ๊กว่าเป็นประติมากรรมแกะสลักบนหินที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ข้ามสะพานแห่งความสิ้นหวัง สะพานไน่เหอ เฉียว 奈何桥

สะพานไน่เหอ เดิมเป็นส่วนต่อขยายของวัดเหลียวหยาง สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง และต่อมาเป็นที่รู้จักในชื่อสะพานไน่เหอ

สระน้ำเบื้องล่างปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ “สระแม่น้ำโลหิต” คำว่า “ไน่เหอ” มาจากคำสันสกฤตที่แปลว่า “นรก”

ตำนานเล่าขานว่าสะพานแห่งนี้เป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับยมโลก

สะพานมีความยาว 7.2 เมตร กว้าง 2.5 เมตร สะพานหินแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง ใช้ทดสอบความดีและความชั่วของผู้ข้ามสะพาน

สะพานนี้ประกอบด้วยซุ้มโค้งหินสามซุ้มที่เหมือนกัน และซุ้มโค้งตรงกลางใช้สำหรับทดสอบคน มีขั้นตอนในการข้ามสะพานที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเพศ อายุ และสถานภาพสมรส

ปีศาจบนสะพานจะปล่อยให้คนดี ผ่านไปสู่การทดสอบครั้งต่อไป แต่คนตายที่ชั่วร้ายจะถูกโยนลงน้ำ

ใต้สะพานมีแอ่งน้ำรูปสี่เหลี่ยม ผู้มีคุณธรรมจะข้ามสะพานไปโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง ส่วนผู้ชั่วร้ายจะตกลงไปในแอ่งน้ำเบื้องล่าง

ส่วนอีกสองซุ้มประตูเรียกว่าสะพานทองและสะพานเงินตามลำดับ เมื่อเตรียมตัวกลับ นักท่องเที่ยวควรข้ามสะพานทั้งสองนี้ เพราะตามความเชื่อของคนในท้องถิ่น เชื่อกันว่าจะนำโชคลาภมาให้

ด่านประตูผี 鬼门关

ช่องเขาทรมานผี เป็นบททดสอบที่สอง ก่อนจะเข้าสู่โลกเบื้องล่าง ว่ากันว่า นี่คือสถานที่ที่ผู้ตายรายงานตัวต่อยมราช ราชาแห่งนรก เพื่อรอการพิพากษา ด้านหน้าของสิ่งก่อสร้างมีรูปปั้นของปีศาจดุร้าย 18 ตน

พระราชวังเทียนจื่อ 天子殿

สถานที่ประทับของพญายมราช ราชาแห่งนรก ถือเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุด เก่าแก่ที่สุด และได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดในบรรดาวัดทั้งหมด ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 2,908 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยประตูวัด (ไป่ฟาง) และตัวพระราชวังซึ่งจะได้เผชิญหน้ากับยมราช ราชาแห่งนรก

พระราชวังแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของเมืองผี และเป็นวัดที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดบนภูเขาหมิง

หอแห่งความกตัญญู

ประดิษฐานพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ชื่อของหอนี้ ที่เรียกว่า “หอแห่งความกตัญญู” เพราะได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราว มู่เหลียนช่วยแม่ ที่ตกนรก กลายเป็นผีหิวโหยเพราะไม่นับถือพระพุทธศาสนา มู่เหลียนจึงได้จัดเทศกาลอุลลัมพนะ หรือประเพณีทิ้งกระจาด ขึ้นในวันที่ 15 เดือน 7 ตามปฏิทินจีน ซึ่งก็คือช่วงเทศกาลสารทจีน

วั่งเซียงไถ 望乡台

วั่งเซียงไถ สร้างขึ้นในปี 1985 ตามความเชื่อที่ว่า หอวั่งเซียง ถือเป็นสถานที่ที่วิญญาณที่ถูกส่งไปนรกจะได้มองดูครอบครัวของพวกเขาเป็นครั้งสุดท้ายและจะได้กล่าวคำอำลาชีวิตบนโลก